อุปกรณ์ในครัว อุปกรณ์สำหรับเปิดร้านอาหาร

อุปกรณ์ในครัว อุปกรณ์สำหรับเปิดร้านอาหารมีอะไรบ้าง

การใช้งานอุปกรณ์ครัวที่เหมาะสมส่งผลต่อประสิทธิภาพการทำงานและคุณภาพของอาหารเป็นอย่างมาก ซึ่งอุปกรณ์ที่ออกแบบตามหลักสรีรศาสตร์จะทำให้ใช้งานได้อย่างสะดวกสบาย อุปกรณ์ที่มีคุณภาพช่วยให้สามารถเตรียมอาหารได้อย่างรวดเร็ว สามารถควบคุมอุณหภูมิ เวลา และเทคนิคในการปรุงอาหารได้ดีขึ้น ส่งผลต่อระดับรสชาติอาหารและเนื้อสัมผัส ทั้งนี้อุปกรณ์ในครัวและอุปกรณ์เปิดร้านอาหารที่สำคัญมีดังนี้

ประเภทของอุปกรณ์ในครัวและร้านอาหาร

หมวดอุปกรณ์ปรุงอาหาร

  1. เตาแก๊ส : สร้างความร้อนสำหรับการปรุงอาหารโดยใช้แก๊สเป็นเชื้อเพลิง ใช้ทำอาหารได้หลากหลาย ควบคุมความร้อนได้ง่าย และกระจายความร้อนได้สม่ำเสมอ
  2. เตาไฟฟ้า : สร้างความร้อนโดยถ่ายโอนพลังงานไฟฟ้าเป็นความร้อนผ่านขดลวดหรือพื้นผิวเซรามิกเรียบ ใช้งานได้หลากหลายเช่นเดียวกับเตาแก๊ส
  3. เตาอบ : อุปกรณ์ให้ความร้อนแก่อาหารอย่างรอบด้าน คล้ายใช้ความร้อนห่ออาหารไว้ด้านใน มีทั้งแบบใช้แก๊สและไฟฟ้า เหมาะสำหรับการอบเค้ก คุกกี้ และขนมปัง หรือย่างเนื้อสัตว์และผัก
  4. เตาย่าง : เป็นการปรุงอาหารด้วยความร้อนซึ่งถูกส่งมาจากด้านล่างโดยตรง ทำให้ได้รสชาติไหม้เกรียมและสีอันเป็นเอกลักษณ์
  5. หม้อหุงข้าว : หุงข้าวโดยอัตโนมัติและรักษาความอุ่นไว้จนกว่าจะพร้อมเสิร์ฟ มีหลายประเภท และสามารถปรุงอาหารประเภทอื่นได้อีกด้วย
  6. กระทะ : อุปกรณ์สำหรับทอด ผัด จี่ และทำให้อาหารเป็นสีน้ำตาล มีขนาดและผลิตจากวัสดุหลายประเภท เช่น เคลือบสารกันติด สเตนเลส หรือเหล็กหล่อ
  7. หม้อ : ภาชนะปรุงอาหารก้นลึกสำหรับใช้งานบนเตา สามารถต้ม เคี่ยว และทำซุป เหมาะสำหรับปรุงอาหารจำนวนมาก
  8. ซึ้งนึ่ง : ภาชนะที่ใช้ไอน้ำในการปรุงอาหารซึ่งจะช่วยคงคุณค่าทางโภชนาการและรสชาติไว้ได้มากกว่าการต้ม

หมวดอุปกรณ์เตรียมอาหาร

  1. มีดทำครัว : อุปกรณ์สำหรับหั่น แล่ และสับอาหาร โดยควรซื้อมีดทำครัวสเตนเลสเพื่อให้แน่ใจว่าจะไม่เกิดสนิมได้ง่าย
  2. มีดปอกเปลือก : มีดขนาดเล็กซึ่งมีใบมีดสั้น ใช้สำหรับปอกเปลือก
  3. หินลับมีด : เมื่อมีการใช้มีด ผ่านไประยะหนึ่งมีดจะทื่อลง หินลับมีดจึงเป็นอุปกรณ์ซึ่งทำให้มีดกลับมาคมกริบอีกครั้ง
  4. เขียง : อุปกรณ์ที่ใช้คู่กับมีด ซึ่งควรเตรียมไว้หลาย ๆ อันสำหรับอาหารประเภทต่าง ๆ เช่น เขียงสำหรับหั่นเนื้อดิบ ไม่ควรเป็นอันเดียวกับที่ใช้หั่นผัก อาจเลือกใช้เป็นเขียงไม้ หรือ เขียงพลาสติกแล้วแต่ความถนัด
  5. กรรไกรครัว : อุปกรณ์อเนกประสงค์ที่ช่วยให้การเตรียมอาหารง่ายขึ้น ใช้ในการตัดวัตถุดิบได้หลากหลาย
  6. เครื่องขูด : อุปกรณ์สำหรับฉีกอาหารชิ้นใหญ่ เช่น ผักและชีส ให้เป็นชิ้นเล็กๆ ได้อย่างรวดเร็ว
  7. ถ้วยตวงและช้อนตวง : เพื่อให้การตวงส่วนผสมทำได้อย่างแม่นยำ
  8. ชามผสม : สำหรับคลุกเคล้าส่วนผสมหลาย ๆ อย่างเข้าด้วยกัน โดยควรมีขนาดใหญ่พอที่จะใส่ส่วนผสมได้จำนวนมาก และมีพื้นที่เพียงพอสำหรับคลุกเคล้าส่วนผสม

หมวดอุปกรณ์จัดเก็บและแช่เย็น

  1. ตู้เย็น : เครื่องใช้ไฟฟ้าที่ลดอุณหภูมิภายในเพื่อเก็บอาหารให้สดนานขึ้นโดยชะลอการเติบโตของแบคทีเรียและเชื้อรา มีช่องแช่แข็งซึ่งสามารถจัดเก็บอาหารที่อุณหภูมิต่ำกว่าศูนย์ ช่วยเก็บรักษาอาหารได้นานขึ้น
  2. กล่องพลาสติก : ใช้เก็บอาหารและแช่แข็งอาหารในช่องแช่แข็ง โดยควรเลือกภาชนะที่เข้าไมโครเวฟได้ เพื่อให้ใช้งานได้หลากหลายยิ่งขึ้น
  3. ถุงซิปล็อก : เหมาะสำหรับเก็บส่วนผสมที่เตรียมไว้แล้วในตู้เย็นหรือช่องแช่แข็ง ถุงซิปล็อกมักใช้พื้นที่น้อยกว่าภาชนะพลาสติก แต่ไม่เหมาะสำหรับของเหลว

หมวดอุปกรณ์เสิร์ฟและอุปกรณ์บนโต๊ะอาหาร

  1. อุปกรณ์เสิร์ฟ : ประกอบด้วยช้อน-ส้อมเสิร์ฟ ทัพพี ที่คีบอาหาร ที่ตักสลัด และเหยือกน้ำ เป็นต้น
  2. อุปกรณ์บนโต๊ะอาหาร : ประกอบด้วยจาน ชาม ช้อน-ส้อม มีดสำหรับตัดอาหาร ถ้วย แก้ว จานเสิร์ฟซึ่งมีลักษณะเป็นจานแบนขนาดใหญ่สำหรับจัดวางและเสิร์ฟอาหาร ตะกร้าใส่เครื่องปรุงหรือพริกไทย ถาดเสิร์ฟ และผ้าเช็ดปาก

อุปกรณ์ทำความสะอาด

  1. เครื่องล้างจาน : อุปกรณ์สำหรับล้างจาน อุปกรณ์ครัว และเครื่องครัวโดยอัตโนมัติ
  2. ชั้นวางจาน : สำหรับวางจาน แก้ว และอุปกรณ์ครัวหลังล้างทำความสะอาดเสร็จเรียบร้อยแล้ว
  3. แปรงขัด ฟองน้ำและน้ำยาล้างจาน : แปรงขัดและฟองน้ำมีหลายขนาดและหลายประเภทสำหรับขัดหม้อ กระทะ ทำความสะอาดจานและพื้นผิว โดยใช้งานคู่กับน้ำยาล้างจาน
  4. ผ้าเช็ดจานและผ้าขนหนู : สำหรับเช็ดพื้นผิว เช็ดจานให้แห้ง และทำความสะอาดทั่วไป
  5. ไม้ถูพื้นและถัง : สำหรับทำความสะอาดพื้นห้องครัว
  6. ไม้กวาดและที่โกยผง : สำหรับกวาดพื้นและเก็บเศษขยะ

อุปกรณ์เฉพาะทางสำหรับร้านอาหาร

  1. เครื่องชงกาแฟสำหรับคาเฟ : เครื่องทำงานด้วยการใช้น้ำร้อนในอุณหภูมิที่เหมาะสมผ่านเมล็ดกาแฟบด จากนั้นผ่านตัวกรองอีกชั้นโดยทิ้งกากกาแฟไว้ สำหรับกระบวนการที่แน่นอนอาจแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับประเภทของเครื่องชงกาแฟที่ใช้
  2. เตาทอด (Deep Fryer) สำหรับร้านฟาสต์ฟูด : เป็นอุปกรณ์ร้านอาหารซึ่งมีตะกร้าสำหรับหย่อนอาหารลงในถังน้ำมัน มีตัวตั้งเวลาและสัญญาณเตือน เมื่ออาหารสุก เครื่องจะยกตะกร้าออกจากน้ำมันโดยอัตโนมัติ
  3. เตาเทปันยากิ หรือเตาไฟฟ้าหินสำหรับร้านอาหารญี่ปุ่น : เตาผิวเรียบซึ่งใช้กันอย่างแพร่หลายในการปรุงอาหารต่อหน้าลูกค้าของร้านอาหาร โดยมากใช้แก๊สเป็นเชื้อเพลิง
  4. เครื่องทำไอศกรีมสำหรับร้านขนม : เป็นเครื่องใช้ในครัวที่ใช้วิธีการปั่นและแช่แข็งส่วนผสมเพื่อให้ได้ไอศกรีมเนื้อเบาและนุ่มฟู ชิ้นส่วนประกอบด้วยชาม พายหรือที่ปาด และชุดมอเตอร์

การเลือกซื้ออุปกรณ์ให้เหมาะสมกับร้านอาหาร

  1. ประเภทของอาหารที่ขาย กำหนดประเภทของอาหาร เครื่องดื่มในร้าน และประมาณปริมาณอาหารที่ต้องเตรียมในแต่ละวัน เพื่อให้สามารถเลือกใช้งานอุปกรณ์ร้านอาหารเชิงพาณิชย์ที่ทนทานซึ่งออกแบบมาสำหรับการใช้งานหนัก และเครื่องครัวที่เหมาะสม
  2. ขนาดของร้านและพื้นที่ในครัว วัดพื้นที่ในครัวเพื่อให้แน่ใจว่าสามารถจัดวางอุปกรณ์ได้พอดี และมีพื้นที่ในการปรุงที่เหมาะสม โดยต้องไม่มีระยะห่างมากเกินไป ทั้งยังต้องสามารถเคลื่อนไหวได้อย่างราบรื่นและมีประสิทธิภาพ
  3. งบประมาณในการซื้ออุปกรณ์ เมื่อกำหนดแผนงานได้อย่างชัดเจนทั้งการกำหนดรายการอาหาร ขนาดของร้านและพื้นที่ในครัว จะทำให้สามารถคำนวณงบประมาณรวมค่าใช้จ่ายในการซื้อ การติดตั้ง และการบำรุงรักษาได้ง่ายมากขึ้น

การเลือกอุปกรณ์ที่เหมาะสมสำหรับร้านอาหาร ถือเป็นปัจจัยสำคัญในการสร้างธุรกิจให้ประสบความสำเร็จ จึงควรที่จะประเมินความต้องการในการเปิดร้านอาหาร ศึกษาข้อมูล ตรวจสอบและวางแผนอย่างละเอียดก่อนเปิดร้านเพื่อประหยัดต้นทุน